วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ประเภทของ Switch




ประเภทของ Switch
1. Circuit Switching: เหมาะกับงาน Analog ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับระบบโทรศัพท์เป็นระบบเสียง หลักการ : มี Input ตัว Output m ตัว เป็นการเชื่อมต่อแบบชั่วคราวการเชื่อมต่อจะเกิดขึ้นเมื่อเราต้องการที่จะเชื่อมต่อจะเป็นสายใครสายมันไม่สามารถเรียกซ้อนได้และเป็นแบบ Full-duplex เทคโนโลยี Circuit Switching มี 2 แบบ
1.1 Space - division Switching : จะใช้ช่องว่างในการแบ่งเส้นทางออกมาจะถูกแบบสำหรับเครือข่ายแบบ Analog และได้พัฒนาเป็นแบบ Digital ได้ด้วย
    1.1.1 Space - division Switching มี 2 แบบ
-  Crossbar Switches : มี Micro Switches (transistor) มี Input n ตัว , Output m ตัว 

-                   Multistage Switches เป็นการเอา Switches หลาย ๆตัวมาต่อเรียงกัน
หลักการทำงานจะต่างจากแบบ Crossbarคือใช้ Switches หลาย ๆตัวโดย Switch จะดูว่าเส้นทางที่จะส่งออกจะส่งทางเส้นทางใดแล้วดูว่า Segment ใด และอยู่ที่ Port หมายเลขใด

Time - Division Switches : แบบนี้จะใช้เวลาเข้ามาเกี่ยวข้องโดยจะใช้
Multiplexer TDM และ TSI (Time - Slot interface)

TSI : ตัวจัดการว่าเครื่องใดจะส่งให้เครื่องใด TSI ประกอบด้วย 2 ส่วน
- Control Unit : เป็นตัวบอกว่าเครื่องไหนจะส่งให้เครื่องไหนแล้วก็จะเลือกตัวที่ควบคุมให้ชี้ไปที่เครื่องนั้น
- RAM
การเปรียบเทียบระหว่าง Space Division กับ Time Division Switch
 - Space - Division
 ประโยชน์ : ระบบคงที่ตายตัวและแน่นอน
            ข้อเสีย : ต้องอาศัย Cross points มาก ๆ
- Time - Division
ประโยชน์ : ไม่จำเป็นต้องมี Cross points มากมาย
ข้อเสีย : จังหวะการ Process จะเกิดการ Delayการแก้ไข ข้อเสียทั้ง 2 อย่าง :โดยเอาทั้ง 2 มารวมกัน เพื่อจะได้ไม่ต้องมี Cross point มาก และเกิดการ Delay ขึ้น

2. Packet Switching ข้อมูลจะถูกแบ่งเป็น Packet ใช้ได้ทั้ง 2 แบบ Analog และ Digital

หลักการทำงาน : เก็บข้อมูลแล้วส่งไปโดยจะส่งแบบคู่ขนานเพื่อลด Delay Time
ข้อดี :   1. สามารถใช้สายที่ link ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะสามารถ Share สายกันได้
                        2. ผู้รับและผู้ส่งไม่จำเป็นต้องทำพร้อม ๆ กัน
                        3. การจัดส่งลำดับข้อความง่ายไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อน
                        4. การปรับเปลี่ยน Data Rate ทำได้ง่ายไม่ว่าจะเพิ่มหรือลด
Packet Switching มี 2 แบบ
1. Datagram: Packet จะมีเส้นทางเป็นของตัวเอง
ข้อดี :   1. ให้ความสมดุลย์ดีไม่เน้นหนักไปเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งมากเกินไป
                        2. ไม่ต้องไปบอกว่าจะไปยังไง โดยมันจะไปตามเส้นทางของมันเอง
                        3. มีความเสถียรภาพดีกว่า Virtual Circuit
                        4. มีความยืดหยุ่นสูง

3. Message Switching
            ใช้หลักการ Stroke and forward โดยที่อุปกรณ์ Switch จะมี HDD ของตัวเองอยู่การทำงานก็คือ ข้อมูลจะถูกส่งมาและถูกเก็บไว้รอจนสายสัญญาณว่าง แล้วจึงทำการส่งข้อมูลไปยังผู้รับ









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น